วันอาทิตย์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2553

บทที่ 1 บทนำ

บทนำ



ความเป็นมาและความสำคัญของโครงงาน

       การประกอบอาชีพในปัจจุบันถือว่ามีความสำคัญกับประชาชนเป็นอย่างมาก อาชีพในแต่ละด้านก็มีความสำคัญที่แตกต่างกันไปและในแต่ละอาชีพก็ยังมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องทำให้งานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงในปัจจุบันได้นำเอาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ เข้ามาแทนที่ ทำให้ผู้คนได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ซึ่งในการประกอบอาชีพในปัจจุบันมีหลากหลายอาชีพมากมายและอาชีพการขายก๋วยเตี๋ยวก็เป็นอาชีพอีกอาชีพหนึ่งที่ถือได้ว่าเป็นอาชีพที่อยู่กับคนไทยมาช้านาน หัวใจหลักในการขายคงไม่พ้นที่การให้ความสำคัญที่น้ำซุป แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นคือต้องทำให้น้ำร้อนตลอดเวลาซึ่งก่อให้เกิดการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง
       ก๋วยเตี๋ยวสามารถทำได้หลายเมนู และหลากหลายรูปแบบให้เลือกทานกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าผู้ประกอบการใดจะมีเมนูใหม่ๆให้ลูกค้าได้ลิ้มลอง ทำให้การประกอบอาชีพนี้จึงมีทั้งร้านข้างทาง ร้านหรูติดแอร์ในห้างสรรพสินค้าเป็นต้น และอาจรวมถึงความแตกต่างของบรรยากาศและราคาอีกด้วย แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน และคนส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้ ก็คือผู้ประกอบการมากกว่า 90% ใช้ภาชนะหม้อต้มก๋วยเตี๋ยวสแตนเลสโดยมีโลหะผสมตะกั่วเป็นตัวประสานรอยตะเข็บ ซึ่งวัสดุประสานดังกล่าวมีส่วนประกอบของดีบุก 60% และตะกั่ว 40% เมื่อใช้หม้อต้มก๋วยเตี๋ยวในอุณหภูมิสูง จะเร่งให้ตะกั่วจากแนวประสานละลายออกมาปนเปื้อนในอาหารอันตรายจากสารตะกั่ว จะก่อให้เกิดอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตและเป็นสารที่ร่างกายไม่สามารถย่อยสลายได้ ส่วนใหญ่จะไปสะสมที่กระดูก ส่วนที่เหลือจะไปสะสมที่ตับ ไต กล้ามเนื้อ และระบบประสาทส่วนกลาง พิษจากสารตะกั่วที่สะสมในปริมาณน้อยแต่เป็นเวลานาน กรณีในเด็กจะทำให้ระดับสติปัญญาลดลงหรือมีไอคิวต่ำกว่าเด็กปกติ แต่ที่สำคัญกว่านั้น คือ พิษจากสารตะกั่วจะก่อให้เกิดมะเร็ง รวมถึงจะไปทำลายระบบประสาทส่วนปลาย ทำให้เป็นอัมพาตที่นิ้วเท้าและมือ ทำลายเซลล์สมองทำลายการทำงานของไขกระดูก มีผลต่อระบบทางเดินอาหารและระบบเลือด ทำให้เกิดโรคโลหิตจาง หม้อต้มก๋วยเตี๋ยวชนิดที่ใช้ตะกั่วเป็นตัวประสานรอยเชื่อมต่อตะเข็บ ราคาใบละประมาณ 1,800 - 2,200 บาท ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ค้าก๋วยเตี๋ยวส่วนใหญ่ เพราะราคาถูกที่สุดหม้อต้มก๋วยเตี๋ยวชนิดที่ใช้การเชื่อมแบบ TIG (TungstenInert Gas) เป็นการเชื่อมโดยใช้กระแสไฟฟ้าผ่านทางเครื่องเชื่อมที่มีหัวเชื่อมทำจากโลหะถังสเตนเพื่อให้ความร้อนสูงในการหลอมโลหะ ซึ่งจะทำให้เกิดอุณหภูมิสูงถึง 1,600 องศาเซลเซียส จนทำให้เนื้อสแตนเลสผสานกัน ซึ่งผู้ประกอบธุรกิจส่วนใหญ่จะเรียกวิธีการดังกล่าวว่า การเชื่อมแบบอาร์กอนซึ่งมีราคาใบละประมาณ 7,500 - 10,000 บาท ปัจจุบันยังไม่เป็นที่แพร่หลายเพราะมีราคาแพงและใช้ระยะเวลาในการผลิตนานทั้งยังต้องใช้ช่างที่มีความชำนาญในการผลิตด้วยหม้อต้มก๋วยเตี๋ยวชนิดขึ้นรูปผลิตภัณฑ์ไม่มีรอยตะเข็บซึ่งยังไม่เป็นที่นิยมเนื่องจากมีราคาแพง และไม่สามารถแบ่งช่องย่อยได้ในกระบวนการผลิตหม้อต้มก๋วยเตี๋ยวชนิดใช้วัสดุอื่นเป็นตัวประสานรอยเชื่อมต่อ เช่น ดีบุกและเงิน และดีบุกและทองแดง แต่มีข้อเสียคือดีบุกจะละลายออกมาปนเปื้อนในอาหารเมื่อใช้งานได้ระยะหนึ่งและทำให้เกิดความยุ่งยากมากและอาจทำให้เสียเวลาในการทำงาน
       สมัยก่อนเราได้ใช้เตาถ่านในการต้มน้ำซุปและน้ำลวกเส้นก๋วยเตี๋ยว ซึ่งเตาถ่านจะต้องใช้ถ่านในปริมาณที่มากเพื่อที่จะเพิ่มและคงความร้อนให้แก่น้ำในหม้อต้ม ก่อให้เกิดการสิ้นเปลืองและเป็นการเพิ่มต้นทุนให้สูงขึ้นอีกด้วย ซึ่งปัจจุบันได้มีการพัฒนามาใช้เตาแก๊สหุงต้ม มีลักษณะของการใช้เชื้อเพลิงที่เป็นก๊าซบรรจุถัง และมีวาวน์ปิด-เปิด ในการใช้งาน ทำให้ผู้ประกอบการได้รับความสะดวกสบาย ความรวดเร็วและยังมีต้นทุนที่ต่ำกว่าการใช้เตาถ่านอีกด้วย แต่เตาทั้ง 2 ชนิดนี้ยังคงต้องทำหน้าที่ในการติดไฟทำให้น้ำซุปและน้ำลวกเส้นก๋วยเตี๋ยวให้ร้อนอยู่ตลอดเวลา จึงก่อให้เกิดการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ดังนั้นทางผู้จัดทำได้เล็งเห็นความสำคัญของการต้มน้ำซุปก๋วยเตี๋ยว จึงคิดค้นหม้อก๋วยเตี๋ยวอัตโนมัติเพื่อประหยัดเวลาในการทำงานและยังช่วยประหยัดเชื้อเพลิงในการทำก๋วยเตี๋ยว จึงได้จัดทำหม้อก๋วยเตี๋ยวอัตโนมัติขึ้น

วัตถุประสงค์ของโครงงาน

       1.เพื่อให้เกิดความสะดวกในการใช้งาน
       2.เพื่อช่วยประหยัดเชื้อเพลิงการต้มก๋วยเตี๋ยว
       3.เพื่อใช้ในการประกอบอาชีพ

เป้าหมายของโครงงาน

       เชิงปริมาณ

             หม้อก๋วยเตี๋ยวอัตโนมัติจำนวน 1 ชุด

       เชิงคุณภาพ

              1.ช่วยให้เกิดความสะดวกในการใช้งาน
              2.ช่วยประหยัดเชื้อเพลิงการต้มก๋วยเตี๋ยว
              3.ใช้ในการประกอบอาชีพ

ขอบเขตของเนื้อหา

       1.ความเป็นมาของสิ่งประดิษฐ์
       2.ความหมายของสิ่งประดิษฐ์
       3.ความสำคัญของสิ่งประดิษฐ์
       4.ลักษณะของสิ่งประดิษฐ์
       5.องค์ประกอบของสิ่งประดิษฐ์
       6.ประโยชน์ของสิ่งประดิษฐ์
       7.ความหมายของการออกแบบ
       8.หลักการออกแบบสิ่งประดิษฐ์

นิยามศัพท์เฉพาะ

       หม้อก๋วยเตี๋ยวอัตโนมัติ หมายถึง อุปกรณ์ที่ใช้กลไกในการทำงานได้โดยอัตโนมัติโดยที่ทำให้น้ำที่อยู่ในหม้อก๋วยเตี๋ยวร้อนอยู่ตลอดเวลาทำให้ประหยัดเชื้อเพลงและประหยัดเวลา

ประโยชน์ที่ได้รับ

       1.ช่วยให้เกิดความสะดวกในการใช้งาน
       2.ช่วยประหยัดเชื้อเพลิงการต้มก๋วยเตี๋ยว
       3.ใช้ในการประกอบอาชีพ



บทที่ 2 เอกสารและทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง

เอกสารและทฤษฎีที่เกียวข้อง

ความเป็นมาของสิ่งประดิษฐ์

       เราสามารถแบ่งการประดิษฐ์ออกเป็น 3 ช่วงตามเวลา และอุปกรณ์การประดิษฐ์

       ยุคต้น (ก่อนคริสศักราชถึงต้นปี500) มนุษย์เรียนรู้การใช้ไฟและในการหลอมโลหะตีอุปกรณ์ ทำแก้ว ยุคนี้เป็นยุคเฟื่องฟูของศาสนาและการทำมาค้าขาย ในยุคที่มีการแบ่งชนชั้นมากเช่นนี้ ผู้คนจำเป็นต้องมี การนำของไปถวายหรือบูชา ไม่ว่าจะเป็นพิธีกรรมทางศาสนาหรือว่าการบูชาทำนาย ทำให้มีการทำเหมืองแบบเก่าเป็นจำนวนมาก เพื่อขุดทอง เงินและทองแดง ในการทำเครื่องประดับต่างๆ นอกจากนี้เรื่องของเครื่องแต่งการยังเป็นยุคที่เฟื่องฟูอีกด้วย เชื่อกันว่าผู้คนรู้จักการย้อมผ้าและ แล้วทักยอแบบหยาบๆ แล้ว โดยอาศัยตัวไหมและยางจากต้นไม้ ในทางเขตยุโรปผู้คนนิยมทำเครื่องเกราะ ดาบ เครื่องเงิน มงกุฎและอุตสาหกรรมต่อเรือยังเป็นอะไรที่เฟื่องฟูอีกด้วย ผู้คนนิยมเดินทาง โดยเฉพาะฝรั่งเศสและ อังกฤษที่ชอบล่าเมืองขึ้น และบ้านยังเป็นแบบไม้ชั้นเดียวที่ต้องแน่นหนา การประดิษฐ์เป็นแบบพื้นๆแล้วศิลปะมากกว่าทางเอเชียหรือแอฟริกา ทางเอเชีย การประดิษฐ์ไม่ค่อยเป็นที่ใส่ใจเท่าไหร่ บ้านยังเป็นแบบเก่าที่ทำจากไม้ ผู้คนจะนิยมค้าขายอาหารกิจกรรมทางศาสนามากกว่า เช่นเดียวกับแอฟริกาที่การประดิษฐ์ไม่ค่อยเจริญเทียบเท่าแถบยุโรป
       ยุครุ่งเรือง(ช่วงกลาง 500-1350) นักประดิษฐ์ทางยุโรปเริ่มรู้จักการใช้ไฟฟ้า อาชิพนักวิทยาศาสตร์ เจริญมาก ทำให้การประดิษฐ์ก้าวหน้าไปด้วย มีการค้นพบคุณสมบัติของไฟฟ้าเป็นครั้งแรก ทำให้มีการประดิษฐ์สิ่งของต่างๆมากมาย เช่นการค้นพบคลื่นวิทยุ มอเตอร์ สนามพลัง ทำให้มีการสร้างรถยนต์ หลอดไฟ วิทยุ โทรทัศน์ และสิ่งของลิเล็กทรอนิกส์อีกมากมาย เมื่อเทียบกับทางแถบแอฟริกาและเอเชีย ซึ่งทางเอเชียได้รับอิทธิพลจากทางแถบยุโรป ทำให้เจริญตามด้วย แต่ไม่มีเรื่องของการประดิษฐ์ แต่จะเป็นผู้บริโภค ทางแถบอเมริกา เริ่มมีคนย้ายเข้าไปอยู่ในเขตของชนชาวพื้นเมือง และคนนั้นมาจากทางแถบยุโรป ซึ่งนำประดิษฐ์ต่างๆมากด้วย ส่วนออสเตรีย และ แอฟริกา เป็นประเทศที่การประดิษฐ์ไม่ค่อยมีคนสนใจ
       ยุคปัจจุบัน (1350-ปัจจุบัน) มนุษย์เริ่มรู้จักการใช้ชิฟ มีการสร้างอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มากมาย เช่น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ จรวด เรือดำน้ำ อุปกรณ์ไฮเทคต่างๆ มีการใช้คลื่นสัญญาณโทรศัพท์ และกระจายไปทั่วโลก แต่ก็ยังไม่ทั่วถึงและเท่ากันทั่วประเทศ มหาอำนาจอย่างอเมริกา โดยเฉพาะ ที่มีนักประดิษฐ์มากกว่าและมีความพร้อม ได้รับการสนับสนุนจากทางรัฐบาลทำให้เกิดความก้าวหน้าเร็วขึ้น แล้วเปลี่ยนการทำงานเป็นการทำงานแบบองค์กร หรือทีมนั่นเอง
       สิ่งประดิษฐ์เกิดขึ้นเพราะมนุษย์เป็นผู้สร้างผู้พัฒนาปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงแบบผลงานด้วยความคิดสร้างสรรค์ที่มีอยู่ในแต่ละบุคคลมีวัตถุประสงค์ในการสร้างสิ่งประดิษฐ์เพื่อตอบสนอง ความต้องการด้านประโยชน์ใช้สอยสิ่งประดิษฐ์มีความสัมพันธ์และเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของคนไทยตั้งแต่สมัยโบราณเกี่ยวข้องกับขนบธรรมเนียมและประเพณีทางศาสนาซึ่งมนุษย์เรานั้นก็คงมีการประดิษฐ์มาอย่างช้านานแล้ว ก็มีความเป็นไปได้ว่าการประดิษฐ์นั้นก็อาจมาจาก สมัยดึกดำบรรพ์แล้วก็เป็นได้เพราะว่ามนุษย์ยุคหินในสมัยนั้นก็มีการประดิษฐ์อาวุธจากก้อนหินบ้างก็ว่านำมาเหลาให้แหลม บ้างก็ว่านำมาทำให้ร้อนแล้วจี้สัตย์ ต่างๆนา จึงบอกได้ว่าคนเราก็มีการประดิษฐ์มาตั้งแต่โบราณกาลแล้วเป็นต้นมาสิ่งประดิษฐ์จึงมาวิวัฒนาการมาอย่างเรื่องๆสืบทอดต่อมาเรื่อยๆ ดังที่เราศึกษาเราก็พบเจอว่ามนุษย์ยุคต่อมาคือมนุษย์ยุคสำริดก็มีการประดิษฐ์เหล็กมาทำเป็นอาวุธ โดยอาวุธนั้นคือสิ่งที่มีความแหลมคมมาก และเหมาะสมกับการล่าสัตว์ในยุคสมัยนั้นจนปัจจุบันอาวุธชิ้นนั้นมันก็คือ มีด หรือ ดาบ ที่เกิดในสมัยของยุคสำริดนั้นเองนอกจากการวิวัฒนาการข้างต้นแล้วนั้นยังมีการ วิวัฒนาการเป็นสิ่งต่าง รอบๆตัวเราไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์ โทรทัศน์ และอื่นๆอีกมากมายก็ต่างล้วนเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ต่างก็เกิดขึ้นเพราะมนุษย์เป็นผู้ผลิต คิดค้นและวิจัยเองทั้งนั้น
       และต่อมาเมื่อ นักวิชาการค้นพบว่าการประดิษฐ์นั้นเป็นพื้นฐานของการสร้างสิ่งของต่างๆนานาจึงได้มีการประชุม ร่วมทำการวิจัยและขอยื่นคำเสนอว่า ของบรรจุการประดิษฐ์เป็นวิชาพื้นฐานของการศึกษา ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้พวกเราก็มีวิชา งานประดิษฐ์เรียนกันอย่างสนุกสนาน เพราะเป็นวิชาที่สนุกสนาน คลายความเครียด ทำให้เกิดความเพลิดเพลิน เกิดความคิดสร้างสรรค์มากมาย และทำให้ในปัจจุบันเกิดสิ่งประดิษฐ์มาใช้กันอย่างมากล้น นอกจากนั้นแล้วการประดิษฐ์ยังมีประโยชน์อีกหลากหลายแขนง ไม่ว่าจะเป็น การเพิ่มรายได้ การใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์และอื่นอีกมากมายด้านการเพิ่มรายได้ ของการทำสิ่งประดิษฐ์นั้นก็ ต่างมีความแตกต่างกันไป เช่น การทำเสื้อผ้า การทำกระเป๋า การทำโคมไฟ และอื่นๆเป็นต้น และที่สำคัญแล้วคือสินค้าประเภท Hand make เพราะตอนนี้เป็นที่นิยมของการตลาด เพราะว่าเป็นสินค้าที่มีความละเอียดอ่อน มีความละมุนละไม มีความสวยงาม และที่สำคัญคือความแปลกใหม่และไม่ซ้ำใคร ตัวอย่างของสินค้า Hand make เช่น ผ้าทอ กระทง กระเป๋าถักทอ เป็นต้น การประดิษฐ์ที่บางอย่างไม่จำเป็นที่จะต้องใช้แค่การ ถัก ทอ เพราะยังมีการประดิษฐ์อีก 1 ชนิดที่ไม่ต้อง ถัก ทอ คือ การประดิษฐ์โปรแกรม ที่ใช้ในคอมพิวเตอร์ ที่ตอนนี้มีความนิยมกันอย่างแพร่หลายทำให้ ธุรกิจของการผลิต Software มีความเจริญเติบโตมากและเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่มีการสร้างรายได้อย่างไม่จำกัด ดังที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ คือประวัติและการวิวัฒนาการของสิ่งประดิษฐ์ที่ต่างก็มีความสำคัญต่างๆแตกต่างกันไป ก็อย่างที่เคยกล่าวข้างต้นว่า “จึงทำให้ในปัจจุบันเกิดสิ่งประดิษฐ์มาใช้กันอย่างมากล้น” จึงอยากให้ผู้ผลิตและผู้บริโภคที่ใช้ สิ่งประดิษฐ์ต่างๆตระหนักถึงสภาวะของสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน ที่มีการทิ้งขยะมูลฝอยมากมาย หรือเป็นการผลิตสิ่งของโดยใช้วัตถุดิบที่อาจเกิดผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ตอนนี้โลกของเราก็ได้เกิด สภาวะโลกร้อนจึงอยากใคร่ครวญ ผู้ผลิตรายยักษ์ใหญ่ ให่มีความตระหนักถึงสารเคมีที่อาจก่อให้เกิดผลเสีย และใคร่ครวญต่อผู้บริโภค รวมถึงผู้ผลิต ให้มีความตระหนักอีกครั้งในด้านของการนำกลับมาใช้ใหม่ คือ การรีไซย์เคิล ซึ่งเป็นผลดี ในทุกๆด้าน เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตาม ทุกๆสิ่งทุกๆอย่างบนโลกนี้จะเกิดแต่ผลดี หากทุกๆคน มีคุณธรรมในด้านของความพอเพียง

ความหมายของสิ่งประดิษฐ์

       สิ่งประดิษฐ์ หมายถึง ความคิดสร้างสรรค์เกี่ยวกับลักษณะองค์ประกอบโครงสร้างหรือกลไกของผลิตภัณฑ์รวมทั้งกรรมวิธีในการผลิตการรักษา หรือปรับปรุงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ให้ดีขึ้น หรือทำให้เกิดผลิตภัณฑ์ขึ้นใหม่ ที่แตกต่างไปจากเดิม เช่น กลไกของกล้องถ่ายรูป,กลไกของเครื่องยนต์,ยารักษาโรค เป็นต้น หรือการคิดค้นกรรมวิธีในการผลิตสิ่งของเช่น วิธีการในการผลิตสินค้า, วิธีการในการเก็บรักษาพืชผักผลไม้ไม่ให้เน่าเสียเร็วเกินไป เป็นต้น
       สิ่งประดิษฐ์ หรือ นวัตกรรมที่มนุษย์สร้างขึ้น ไม่ว่าจะด้วยความฉลาดหรือบังเอิญ แล้วผู้ที่ประดิษฐ์สิ่งของ เรามักจะเรียกว่านักประดิษฐ์ (inventor) สิ่งประดิษฐ์คือสิ่งของต่างๆที่เกิดจากความต้องการของมนุษย์เพื่อใช้ในการแสวงหาประโยชน์ หรือ อำนวยความสะดวกสบายต่างๆ

ความสำคัญของสิ่งประดิษฐ์

       สิ่งประดิษฐ์คืองานที่ไม่ได้ใช้เครื่องจักรในการสร้างชิ้นงาน แต่ใช้สมองกับ 2 มือและเป็นผลงานที่ต้องใช้ความอดทน ความรักในงาน ความคิดที่สร้างสรรค์ จินตนาการ ความละเอียดและที่สำคัญ คือความมีคุณค่าทางจิตใจของผู้สร้างงานประโยชน์คือเป็นงานที่จะมีคุณค่าสำหรับการอนุรักษ์ไว้ในภายหน้า และสามารถคิดต่อยอดจากการประดิษฐ์นั้นๆไปได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด งานประดิษฐ์บางชิ้นสามรถสร้างชื่อเสียงให้กับตนเองและประเทศชาติได้ และประโยชน์อันมาจากการนำวัสดุเหลือใช้หรือที่ใครคิดไม่ถึงสามารถมาทำประโยชน์ได้อย่างมีคุณค่า สามารถสร้างรายได้ให้กับตนเองและครอบครัว

ลักษณะของสิ่งประดิษฐ์

              ลักษณะของสิ่งประดิษฐ์สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ

       1. สิ่งประดิษฐ์ทั่วไปเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ไม่มีความเป็นมาจากบรรพบุรุษหรือท้องถิ่น กล่าวคือ เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่บุคคลทั่วไปสามารถเรียนรู้และนำไปประดิษฐ์ได้โดยอาศัยการศึกษาจากตำรา เช่น ดอกไม้จากวัสดุเหลือใช้ หมวก ตุ๊กตา เครื่องเล่นต่าง ๆ และกรอบรูป เป็นต้น
       2. สิ่งประดิษฐ์ที่เป็นเอกลักษณ์ไทยเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษหรือเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่มีเฉพาะในท้องถิ่นนั้น ๆ โดยส่วนมากจะเป็นการสืบทอดจากผู้ใหญ่ในครอบครัวมาสู่ลูกหลาน สิ่งประดิษฐ์หลายอย่างทำขึ้นเพื่องานประเพณีทางศาสนา เช่น พานพุ่ม มาลัย เครื่องแขวน บายศรี และบางอย่างก็ทำขึ้นเพื่อความสวยงาม สนุกสนาน ภายในครอบครัว เช่น ว่าวไทย รถลาก ตุ๊กตา เป็นต้น

องค์ประกอบของสิ่งประดิษฐ์

              องค์ประกอบที่สำคัญของการออกแบบสิ่งประดิษฐ์ มีดังนี้

       1. เส้น เป็นสิ่งที่เกิดจากการเชื่อมต่อจุดให้เคลื่อนไปในทิศทางที่ต้องการจึงก่อให้เกิดรูปร่าง รูปทรง สัดส่วน พื้นที่ บริเวณและความรู้สึกที่แตกต่างกันดังนี้ในการออกแบบควรนึงถึงลักษณะเส้น
       2. รูปร่าง เป็นส่วนที่แสดงถึงเส้นรอบนอกของรูปแบบชิ้นงานซึ่งเป็นลักษณะ2มิติ ซึ่งสื่อความหมายถึงความกว้างและความยาวไม่มีความหนาเกิดจากเส้นรอบนอกที่แสดงพื้นที่ขอบเขตของรูปต่างๆ เช่น รูปสี่เหลี่ยมรูปวงกลมหรือรูปอิสระที่แสดงเนื้อที่ของผิวมากกว่าแสดงปริมาตรหรือมวล
       3. รูปทรง คือ ลักษณะของวัตถุที่มองเห็นเป็นรูป 3มิตินอกจากแสดงความกว้างความยาวแล้วยังมีความหนาลึกและความหนานูน เช่น ทรงกลม ทรงสามเหลี่ยมทรงกระบอก เป็นต้น
       4. ขนาดและสัดส่วนของชิ้นงานเป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึงเพราะขนาดของชิ้นงานที่ส่งผลถึงประโยชน์และการนำไปใช้งาน เช่น การออกแบบดอกไม้ประดิษฐ์เพื่อนำไปประดับมุมห้องถ้ามีขนาดเล็กเกินไปก็จะไม่เหมาะสม
       5. สี หมายถึง ลักษณะที่ปรากฏแก่สายตาให้เห็นสีต่างกันสีเป็นสิ่งที่มีอิทธิพลต่ออารมณ์และความรู้สึกเมื่อมองเห็น เช่น ตื่นเต้น หนาวเย็น หรืออออบอุ่น นุ่นนวล หรือแข็งกระด้างดังนั้นจึงต้องมีความรู้ความเข้าใจเรื่อของอิทธิพลของสีแต่ละสีและนำไปใช้ให้เหมาะสม
      6. ลักษณะผิวของวัตถุ คือ คุณลักษณะภายนอกของวัตถุที่มีลักษณะแตกต่างกันตามลักษณะและชนิดของวัตถุ เช่น เรียบ มัน ขรุขระ หยาบ เป็นต้น และลักษณะพื้นผิวที่ปรากฏแก่สายตาจะมีผลต่อประสาทและความรู้สึกของผู้มอง

ประโยชน์ของสิ่งประดิษฐ์

       1. ฝึกให้เกิดความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ สร้างผลงานให้มีรูปร่างแปลกใหม่และพัฒนางาน
ประดิษฐ์เดิมให้สามารถใช้ประโยชน์เพิ่มมากขึ้น
       2. สิ่งประดิษฐ์ที่ใช้วัสดุต่างๆ ที่นำมาประกอบกันเป็นชิ้นงานสามารถที่จะใช้วัสดุอื่น
ทดแทนกันได้ และสามารถนำวัสดุที่มีในท้องถิ่นมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้
       3. ฝึกให้รู้จักการวางแผนทำงานอย่างเป็นระบบเป็นขั้นตอนการปฏิบัติเป็นการสร้างระเบียบ
วินัยให้ตนเองและมีนิสัยรักในสิ่งประดิษฐ์
       4. ให้นักเรียนรู้จักใช้และดูแลรักษาเครื่องมือในสิ่งประดิษฐ์ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
กับประเภทของสิ่งประดิษฐ์
       5. ฝึกให้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์สามารถทำงานได้อย่างมีสมาธิและมีความสุขในการ
สร้างสรรค์ชิ้นงานประดิษฐ์ของตนเอง
       6. ฝึกให้นักเรียนรู้จักการประหยัดสามารถนำสิ่งของที่เหลือใช้มาทำให้เกิดประโยชน์มาก
ที่สุดโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการลงทุนมากนัก
       7. เป็นการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่นให้มีการสืบทอดและพัฒนาต่อไป จากภูมิ
ปัญญาเดิมสู่การเรียนรู้ที่เป็นองค์รวมและเป็นผลงานของคนไทย
       8. สามารถเพิ่มรายได้ให้กับผู้ประดิษฐ์โดยการนำออกไปจำหน่ายในโอกาสต่างๆและสร้าง
เป็นอาชีพได้ในอนาคต
       9. เกิดความภาคภูมิใจในชิ้นงานของตนเองทำให้บุคคลยอมรับในความสามารถของตนเอง
ในระดับหนึ่งสะดวกสบายต่างๆ

หลักการออกแบบของสิ่งประดิษฐ์

       การประดิษฐ์ชิ้นงานจำเป็นต้องมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ชิ้นงานเพื่อการใช้ประโยชน์ทางด้านร่างกายและด้านจิตใจคือประโยชน์ในการใช้สอยและความสวยงามด้านศิลปวัฒนธรรม แบบของงานประดิษฐ์เกิดจากการเลียนแบบธรรมชาติจินตนาการและความสะดวกในการใช้งานและมีการดัดแปลงรูปแบบให้เหมาะสมกับสมัยนิยม

ความหมายของการออกแบบ

       การออกแบบ หมายถึง การใช้ความคิดสร้างสรรค์ชิ้นงานให้สมบูรณ์และความสามารถนำความคิดขึ้นมาปฏิบัติเป็นชิ้นงานได้เพื่อสนองความต้องการของมนุษย์ทั้งด้านการใช้สอยและด้านศิลปะความสวยงามหรือจิตใจ
       การออกแบบ หมายถึง การรู้จักวางแผนจัดตั้งขั้นตอน และรู้จักเลือกใช้วัสดุวิธีการเพื่อทำตามที่ต้องการนั้น โดยให้สอดคล้องกับลักษณะรูปแบบและคุณสมบัติของวัสดุแต่ละชนิดตามความคิดสร้างสรรค์ และการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ขึ้นมา เช่น เราจะทำเก้าอี้นั่งซักตัวจะต้องวางแผนไว้เป็นขั้นตอนโดยต้องเริ่มเลือกวัสดุที่จะใช้ทำเก้าอี้นั้นจะใช้วัสดุอะไรที่เหมาะสม วิธีการต่อยึดนั้นควรใช้กาว ตะปูนอต หรือใช้ข้อต่อแบบใด คำนวณสัดส่วนการใช้งานให้เหมาะสม ความแข็งแรงของเก้าอี้นั่งมากน้อยเพียงใด สีสันควรใช้สีอะไรจึงจะสวยงาม และทนทานกับการใช้งาน เป็นต้น

บทที่ 5 สรุปและอภิปรายผลการดำเนินงาน

สรุปและอภิปรายผลการดำเนินงาน


สรุปผล

       หม้อก๋วยเตี๋ยวอัตโนมัติ สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ สาขางานการพัฒนาโปรแกรมนี้ ได้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อให้เกิดความสะดวกในการใช้งานและเป็นการประหยัดเชื้อเพลิงของการต้มก๋วยเตี๋ยวทั้งนำมาใช้ในการประกอบอาชีพให้สอดคล้องในความต้องการในยุคปัจจุบันคือ สะดวก ประหยัดและง่ายต่อการประกอบอาชีพ ซึ่งหม้อก๋วยเกี๋ยวอัตโนมัติสาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจจัดทำขึ้นเพื่องานอาชีพ
       จากผลทดสอบหม้อก๋วยเตี๋ยวอัตโนมัติ วิชาโครงงงานด้านคอมพิวเตอร์ธุรกิจ พบว่าหม้อก๋วยเตี๋ยวอัตโนมัติมีประสิทธิภาพโดยมีการตัดไฟได้เองโดยอัตโนมัติและยังช่วยประหยัดเชื้อเพลิงในการต้มก๋วยเตี๋ยวสามารถนำไปใช้ในการประกอบอาชีพได้และตรงตามวัตถุประสงค์ทำให้ความสะดวกสะบายในการใช้งานและไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้งาน

ปัญหาและอุปสรรค

       ปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้นในการทำหม้อก๋วยเตี๋ยวอัตโนมัตมีดังต่อไปนี้

            1. ปัญหาในการทำหม้อก๋วยเตี๋ยวอัตโนมัติ ผู้จัดทำยังขาดความรู้ ความชำนาญ และ ทักษะในการทำหม้อก๋วยเตี๋ยว ทำให้การทำหม้อก๋วยเต๋ยวเกิดความล้าช้า
            2. การทำหม้อก๋วยเตี๋ยวอัตโนมัติเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ทำโปรแกรมของแต่ละคนนั้นได้เจอกับปัญหาไวรัสทำให้การทำงานไม่สะดวกมากนัก
            3. เวลาทำงานเสร็จแล้ว งานที่ทำในแต่ละครั้งก็มีข้อผิดพลาดและต้องกลับไปแก้ไขงานใหม่อีกครั้ง จึงเป็นปัญหาในการทำงานทำให้เสียเวลาในการทำงานอีกจึงทำให้งานที่ทำแต่ละครั้งช้า
           4. โปรแกรมมีปัญหาก่อนทดสอบทำให้เสียเวลามาตรวจแก้ไขข้อผิดพลาด
           5. ตอนปรึกษางานกันก็เกิดความเห็นไม่ตรงกันบ้างในบางครั้ง
ข้อเสนอแนะ

      1. เนื่องจากหม้อก๋วยเตี๋ยวอัตโนมัติ สาขางานคอมพิวเตอร์ธุรกิจเพื่องานอาชีพ ไม่สามารถจะทำตัววัดอุณภูมิความร้อนที่แน่นอนได้จึงต้องให้มีผู้สนใจและความรู้ความสามารถ ได้เข้ามาศึกษาจนอาจจะเห็นข้อบกพร่องของการทำหม้อก๋วยเตี๋ยวอัตโนมัติสาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจเพื่องานอาชีพ และนำไปปรับปรุง เนื้อหาที่เก่าให้ใหม่ขึ้นมา
      2. ควรมีการทำหม้อก๋วยเตี๋ยวอัตโนมัติมีการใช้งานที่ประหยัดพลังงานมากกว่าเดิม

บทที่ 4 ผลการดำเนินงาน

ผลการดำเนินงาน

       การดำเนินงานการจัดทำโครงงาน หม้อก๋วยเตี๋ยวอัตโนมัติ วิชาโครงงานด้านคอมพิวเตอร์ธุรกิจ ผู้จัดทำโครงงานได้จัดทำสำเร็จตามแผนที่วางไว้และได้นำไปให้อาจารย์ประจำวิชา ทดลองใช้และทำการประเมินผลซึ่งโครงงานได้ผ่านการประเมิน นำเสนอผลงานและสอบโครงงาน จากคณะกรรมการสาขางานคอมพิวเตอร์ธุรกิจทั้ง 7 ท่านแล้ว ซึ่งผลการจัดทำโครงงานมีดังนี้
       ผลการทดสอบหม้อก๋วยเตี๋ยวอัตโนมัติ วิชาโครงงานด้านคอมพิวเตอร์ธุรกิจ พบว่าหม้อก๋วยเตี๋ยวอัตโนมัติมีประสิทธิภาพโดยการตัดไฟได้เองโดยอัตโนมัติและยังช่วยประหยัดเชื้อเพลิงในการต้มก๋วยเตี๋ยวสามารถนำไปใช้ในการประกอบอาชีพได้และตรงตามวัตถุประสงค์ทำให้เกิดความสะดวกสบายในการใช้งานและไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้งานซึ่งหม้อก๋วยเตี๋ยวอัตโนมัติมีรูปแบบดังต่อไปนี้




รูปที่ 4.1 แสดงรูปด้านข้างซ้าย





รูปที่ 4.2 แสดงรูปด้านข้างขวา




รูปที่ 4.3 แสดงรูปด้านหน้า



 

รูปที่ 4.4 แสดงรูปด้านหลัง




รูปที่ 4.5 แสดงรูปด้านล่าง

บทที่ 3 วิธีการดำเนินโครงงาน

วิธีการดำเนินโครงงาน

       การจัดทำโครงงานหม้อก๋วยเตี๋ยวอัตโนมัติ ผู้จัดทำโครงงานจัดทำเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้งานและเพื่อให้ผู้ใช้งานได้ใช้ประโยชน์จากการใช้งานได้ทันเวลาและหม้อก๋วยเตี๋ยวแบบอัตโนมัติสามารถใช้งานได้จริงซึ่งมีวิธีดำเนินการตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
              1. ศึกษาเอกสารและทฤษฏีที่เกี่ยวข้อง
              2. ศึกษาหลักการและแนวทางในการออกแบบ
              3. ดำเนินการออกแบบตามแนวทางที่ดำเนินไว้
              4. ปฏิบัติการสร้างโครงงานตามแผนที่วางไว้
              5. ทดสอบและปรับปรุงโครงงาน
              6. การประเมินโครงงาน
              7. นำเสนอโครงงาน

1. ศึกษาเอกสารและทฤษฏีที่เกี่ยวข้อง

       สมัยก่อนเราได้ใช้เตาถ่านในการต้มน้ำซุปและน้ำลวกเส้นก๋วยเตี๋ยว ซึ่งเตาถ่านจะต้องใช้ถ่านในปริมาณที่มากเพื่อที่จะเพิ่มและคงความร้อนให้แก่น้ำในหม้อต้ม ก่อให้เกิดการสิ้นเปลืองและเป็นการเพิ่มต้นทุนให้สูงขึ้นอีกด้วยซึ่งปัจจุบันได้มีการพัฒนามาใช้เตาแก๊สหุงต้มมีลักษณะของการใช้เชื้อเพลิงที่เป็นก๊าซบรรจุถัง และมีวาวน์ปิด-เปิด ในการใช้งานทำให้ผู้ประกอบการได้รับความสะดวกสบายความรวดเร็วและยังมีต้นทุนที่ต่ำกว่าการใช้เตาถ่านอีกด้วยแต่เตาทั้ง 2 ชนิดนี้ยังคงต้องทำหน้าที่ในการติดไฟทำให้น้ำซุปและน้ำลวกเส้นก๋วยเตี๋ยวให้ร้อนอยู่ตลอดเวลาจึงก่อให้เกิดการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง
       ดังนั้นความสำคัญของการต้มน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวอาจน้ำให้ต้องสิ้นเปลื้องเชื้อเพลิงและเสียเวลาในการต้มนำซุป จึงคิดค้นหม้อก๋วยเตี๋ยวอัตโนมัติเพื่อประหยัดเวลาในการทำงานและยังช่วยประหยัดเชื้อเพลิงในการทำก๋วยเตี๋ยว จึงได้จัดทำหม้อก๋วยเตี๋ยวอัตโนมัติขึ้น
2. ศึกษาหลักการและแนวทางในการออกแบบ

       การจัดทำโครงงานหม้อก๋วยเตี๋ยวแบบอัตโนมัติผู้จัดทำโครงงานได้ศึกษาหลักการและแนวทางในการออกแบบ

ศึกษาหลักการ

       การจัดทำโครงงานหม้อก๋วยเตี๋ยวแบบอัตโนมัติผู้จัดทำโครงงานได้ศึกษาหลักการจัดทำหม้อก๋วยเตี๋ยวอัตโนมัติ ซึ่งมีหลักการทำงาน วัสดุอุปกรณ์ดังนี้

       หลักการทำงานของหม้อก๋วยเตี๋ยวอัตโนมัติ

              เมื่อหม้อก๋วยเตี๋ยวเกิดความร้อนเซนเซอร์ความร้อนจะทำงานไปที่เตาแก็สทำให้เกิดการตัดไฟโดยอัตโนมัติและเมื่อหม้อก๋วยเตี๋ยวเกิดความเย็นลงเตาแก็สจะเปิดไฟเองโดยอัตโนมัติ

วัสดุอุปกรณ์

       1. หม้อก๋วยเตี๋ยว 2 ช่อง 1 หม้อ
       2. เตาแก็ส 1 เตา
       3. เฟืองทดกำลัง 1 อัน
       4. เหล็กรู 1 ตัว
       5. น็อต 10 ตัว
       6. มอเตอร์ DC. 1 ตัว
       7. กล่องคุมมอเตอร์ DC. 12 v 1 ตัว
       8. หม้อแปลงไฟฟ้า AC. เป็น DC. 12 v 1 ตัว
       9. เซนเซอร์จับความร้อน 1 ตัว
      10. สวิตซ์ปิดเปิด 1 ตัว
      11. เฟืองมอเตอร์ 1 ตัว
      12. สายไฟ 1 ชุด
วิธีทำ

       1. เตรียมอุปกรณ์
       2. นำเฟืองขับวาวน์และเฟืองทดรอบมาติดที่รูที่เจาะไว้ที่หน้าเตาแก๊สทั้ง 2 รู
       3. นำมอเตอร์ DC. มาติดข้างในของเตาแก๊ส
       4. นำกล่องคุมมอเตอร์ DC. พร้อมกับนำหม้อแปลงไฟฟ้า AC. เป็น DC. มาติดข้างในของเตาแก๊สให้ตรงกับเฟืองทดรอบข้างหน้าของเตาแก๊ส
      5. นำเซนเซอร์จับความร้อนมาติดไว้กับหม้อก๋วยเตี๋ยวให้อยู่กึ่งกลางของหม้อก๋วยเตี๋ยว
      6. นำกล่องเหล็กมาปิดเฟืองทดรอบเพื่อไม่ไห้เป็นอันตรายต่อผู้ใช้งาน
      7. นำสวิตซ์ปิดเปิดมาใส่ตรงหน้ากล่องที่ปิดเฟืองทดรอบเพื่อสามารถเร่งแก๊สได้และทำการทดลอง
      8. นำปลั๊กมาติดไว้กับสายเซนเซอร์ความร้อน

ศึกษาแนวทาง

แนวทางในการออกแบบของหม้อก๋วยเตี๋ยวอัตโนมัติได้วางแนวทาง ดังนี้

       1. ใช้หม้อก๋วยเตี๋ยวขนาดเล็กและเตาแก็สขนาด 30*39*9 cm.
       2. ใช้ตัวเซนเซอร์ความร้อน 1 ตัวเพื่อใช้จับความร้อน
       3. ใช้แผงควบคุมมอเตอร์และกล่องมอเตอร์เพื่อควบคุมการทำงานของเตาแก๊ส
       4. ใช้เฟืองทดกำลังและเฟืองมอเตอร์เพื่อใช้ในการขับวาวน์ของเตาแก๊ส
       5. ใช้สวิตซ์ปิดเปิดเพื่อสามารถเพิ่มความแรงของแก๊สได้
3. ดำเนินการออกแบบตามแนวที่ดำเนินไว้

หม้อก๋วยเตี๋ยวอัตโนมัติได้ออกแบบตามแนวทางที่วางแผน ดังนี้

รูปที่ 3.1 ข้างซ้าย


รูปที่ 3.2 ด้านขวา


รูปที่ 3.3 ด้านหน้า


รูปที่ 3.4 ด้านหลัง

รูปที่ 3.5ด้านบน


รูปที่ 3.6ด้านล่าง


4. ปฏิบัติการสร้างโครงงาน

        วิธีการดำเนินงาน

        1. เตรียมอุปกรณ์



รูปที่ 3.7 การเตรียมอุปกรณ์


        2. นำเฟืองขับวาวน์และเฟืองทดรอบมาติดที่รูของหน้าเตาแก๊สทั้ง 2 รู


รูปที่ 3.8 การนำเฟืองขับวาวน์และเพืองทดรอบมาติด

       3. นำมอเตอร์ DC. มาติดข้างในของเตาแก๊ส


รูปที่ 3.9 การนำมอเตอร์ DC. มาติด

       4. นำกล่องคุมมอเตอร์ DC. พร้อมกับนำหม้อแปลงไฟฟ้า AC. เป็น DC. มาติดข้างในของเตาแก๊สให้ตรงกับเฟืองทดรอบข้างหน้าของเตาแก๊ส


รูปที่ 3.10 การนำกล่องคุมมอเตอร์ DC. พร้อมกับนำหม้อแปลงไฟฟ้า AC. เป็น DC. มาติด



       5. นำเซนเซอร์จับความร้อนมาติดไว้กับหม้อก๋วยเตี๋ยวให้อยู่กึ่งกลางของหม้อก๋วยเตี๋ยว


รูปที่ 3.11 การนำเซนเซอร์จับความร้อนมาติดไว้กับหม้อก๋วยเตี๋ยว

       6. นำกล่องเหล็กมาปิดเฟืองทดรอบเพื่อไม่ไห้เป็นอันตรายต่อผู้ใช้งาน


รูปที่ 3.12 นำกล่องเหล็กมาปิดเฟืองทดรอบ


    7. นำสวิตซ์ปิดเปิดมาใส่ตรงหน้ากล่องที่ปิดเฟืองทดรอบเพื่อสามารถเร่งแก๊สได้และทำการทดลอง



รูปที่ 3.13 นำสวิตซ์ปิดเปิดมาใส่ตรงหน้ากล่อง

      8. นำปลั๊กมาติดไว้กับสายเซนเซอร์ความร้อน


รูปที่ 3.14 นำปลั๊กมาติดไว้กับสายเซนเซอร์ความร้อน

5. ทดสอบและปรับปรุง

       ทดสอบ

              1. ทดสอบระบบการทำงานเดิมของเตาแก๊ส
              2. ทดสอบเซนเซอร์ความร้อน
              3. ทดสอบการทำงานของมอเตอร์ DC.

      ปรับปรุง

             1. จากการทดสอบระบบการทำงานเติมของเตาแก๊ส ทำให้ทราบว่า การทำงานของตัวเร่งไฟไม่ได้ทำงานแบบอัตโนมัติ จึงต้องทำการปรับการทำงานของระบบเตาแก็สให้เร่งหรือเร่งความร้อนได้อย่างอัตโนมัติ
             2. จากการทดสอบเซนเซอร์ความร้อนทำให้ทราบว่า การทำงานของเซนเซอร์ความร้อนต้องมีระดับที่เท่ากับน้ำในหม้อก๋วยเตี๋ยวหรือน้อยกว่า จึงต้องทำการปรับการทำงานของเซนเซอร์ให้อยู่ในระดับที่พอดีกับน้ำในหม้อก๋วยเตี๋ยวให้เซนเซอร์ทำงานได้อย่างอัตโนมัติ
            3. จากการทดสอบมอเตอร์ DC. ทำให้ทราบว่า การทำงานไม่สมบูรณ์เนื่องจากมอเตอร์ DC.ยังไม่มีการควบคุมการทำงาน จึงต้องปรับการทำงานโดยใช้กล่องควบคุมมอเตอร์มาช่วยในการทำงานด้วย

6. การประเมินโครงงาน

       ในการทำโครงงานหม้อก๋วยเตี๋ยวอัตโนมัติได้ใช้แบบประเมินโครงการดังนี้
            1. แบบประเมินขณะทำโครงการ
            2. แบบประเมินนำเสนอผลงาน
            3. แบบประเมินผลงานโดยรวม
            4. แบบประเมินการเขียนและนำเสนอเค้าโครงโครงงาน
            5. แบบประเมินรูปเล่มรายงาน
            6. แบบประเมินการแก้ไขโครงงาน
            7. แบบสรุปคะแนนรวม
            8. แบบประเมินการจัดแสดงโครงงาน

7. นำเสนอโครงงาน

       วันพฤหัสบดี ที่ 1 เดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2553


รูปที่ 3.15 แสดงการนำเสนอในบทที่ 1

       วันที่อังคาร ที่ 3 เดือน สิงหาคม พ.ศ. 2553


รูปที่ 3.16 แสดงการนำเสนออุปกรณ์ภายในหม้อก๋วยเตี๋ยวพร้อม power point

       วันพฤหัสบดี ที่ 1 เดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2553


รูปที่ 3.17 แสดงการนำเสนอในบทที่ 3 และอุปกรณ์ภายในหม้อก๋วยเตี๋ยว